หุ้น RELY อนาคตเจ้าตลาดโอนเงินกลับประเทศของแรงงานต่างแดน [Review]
การโอนเงินระหว่างประเทศและระบบธนาคารเป็น 2 อุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในโลกการเงิน ที่ผ่านมาการโอนเงินระหว่างประเทศมูลค่า $1.5 trillion ที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียมทั่วโลก $40 billion ถูกครองโดยสถาบันการเงินยุคเก่า ลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่ทำงานต่างแดนได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ไม่ดีมากนัก รวมทั้งโดนค่าธรรมเนียมแสนโหด
วงการนี้แทบไม่มีพัฒนาการเลย ไม่สามารถขยายตลาดไปตามแรงงานที่ไปทำงานในหลากหลายประเทศ ก่อนหน้านี้เริ่มมีสัญญาณเตือนจากการมาของสกุลเงินคริปโตที่โอนเงินระหว่างประเทศได้ง่ายและค่าธรรมเนียมต่ำ แต่ด้วยความที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ วงการนี้จึงยังไปต่อได้
แต่จุดอ่อนเหล่านี้ทำให้ถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่เสริมการใช้งานให้ง่ายขึ้นและลดค่าธรรมเนียมต่ำลงได้ บริษัทที่ชื่อว่า Remitly มองเห็นการเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างแดนที่ต้องการส่งเงินกลับไปให้ครอบครัว เดินหน้าทำธุรกิจโอนเงินระหว่างประเทศ
ธุรกิจของ Remitly
Remitly เป็นบริษัท fintech ทำธุรกิจให้บริการ platform โอนเงินระหว่างประเทศทั้งระดับ B2B และ B2C โดยเป็นการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิตอลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเวปไซต์หรือแอพพลิเคชั่น ให้บริการไปแล้วกว่า 170 ประเทศ
Platform ของ Remitly รวมทั้ง front-end และ back-end ไว้ด้วยกัน ลูกค้าใช้งานได้ง่ายขึ้น บริษัทก็บริหารงานง่ายขึ้น ควบคุมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ แถมบริษัทยังทำ infrastructure cloud ของตนเอง ช่วยให้ขยายธุรกิจได้ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำลง
Remitly ได้ประโยชน์จากข้อมูลทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้น โดยเอาไปใช้ทำกลยุทธ์การตลาด พัฒนาประสบการณ์การใช้และเทคโนโลยี ผลลัพธ์ก็คือธุรกิจเติบโตแบบ organic
แม้ค่าธรรมเนียมอาจไม่ได้ต่ำที่สุดทุกธุรกรรม แต่การไม่คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมรวมถึงสามารถล๊อคอัตราแลกเปลี่ยนได้ทันทีที่โอนเงิน และ platform ที่ user-friendly เป็นปัจจัยหลักของการเติบโต
ขณะที่ช่องทางการโอนและรับเงินที่สะดวกสบายเป็นอีกจุดเด่นสำคัญ ฝั่งผู้ส่งสามารถเลือกโอนเงินด้วยบัญชีธนาคาร(บางประเทศ เช่น สหรัฐฯ, เยอรมนี, ออสเตรเลีย), บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต ส่วนผู้รับมีทางเลือกทั้งบัญชีธนาคาร, ไปรับเงินเองที่จุดที่สะดวก, mobile account หรือส่งถึงบ้าน
ด้วยขั้นตอนที่น้อยแต่ปลอดภัยและช่องทางหลากหลายแบบนี้ก็เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแรงงานในต่างแดนที่โอนเงินกลับบ้าน
Remitly มีรายได้หลักจาก 2 แหล่ง คือ
ค่าธรรมเนียมธุรกรรม (Transaction Fees) ขึ้นอยู่กับประเทศทั้งต้นทางและปลายทาง ช่องทางโอน จำนวนเงิน
ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign exchange spreads) บริษัทพยายามให้อัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ากับลูกค้าและบริษัทยังทำกำไรได้
บริษัทยังมีบริการให้ภาคธุรกิจนำ platform ไปใช้เป็นอีกช่องทางรับเงิน ช่วยธุรกิจขนาดเล็กและกลางขยายตลาดไปต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกกรณีฉุกเฉิน เช่น โรคระบาด ความไม่สงบทางการเมือง
การเติบโต
การโอนเงินจากแรงงานในต่างแดนกลับบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2023 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% แม้แนวโน้มจะมีความสัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจประเทศรายได้สูงที่แรงงานไปทำงาน แต่ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำแรงงานมักลดค่าใช้จ่าย
ต่อให้แนวโน้มไม่เพิ่มขึ้นแต่มีโอกาสกระทบ Remitly น้อย เพราะบริษัทอยู่ใน stage young growth เป้าหมายหลักจึงเป็นการแย่งส่วนแบ่งตลาดจากสถาบันการเงินดั้งเดิมมากกว่า
Q1/2023 มี Active Customers 4.559 ล้านผู้ใช้ เพิ่มขึ้น 50% (YoY) แต่ค่าใช้จ่าย customer acquisition ลดลงจาก Q1/2022 ต้องยกความดีความชอบให้กับการทำ Marketing ที่มีประสิทธิภาพ เน้นการทำแบรนด์แบบ human-focused ผลลัพธ์เลยสะท้อนผ่านการเติบโตด้วยการบอกต่อปากต่อปาก (word-of-mouth)
ความสะดวกสบายและความน่าเชื่อถือสะท้อนผ่านเรทติ้งแอพพลิเคชั่นทั้งบน iOS ได้ 4.9 และ Android ได้ 4.8
พอมาถึงตรงนี้ Remitly เจาะตลาดลูกค้าด้วยการใช้งานง่าย โอนเร็ว มีความเสถียร การตลาดเข้าถึงกลุ่มแรงงานในต่างแดน
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ 70.5% ทั่วโลก 17.3% และแคนาดา 12.1% ก้าวต่อไปต้องเพิ่มสัดส่วนรายได้จากทั่วโลก
Q1/2023 Remitly บุกตลาดประเทศ UAE พร้อมเปิดสำนักงานแรก ซึ่งเป็นประเทศที่มีแรงงานต่างชาติเกือบ 90% ของประชากรประเทศ ที่ผ่านมาโอนเงินกลับประเทศผ่าน และมี volume โอนเงินออกอันดับ 2 ของโลก และยังซื้อกิจการ Rewire บริษัทโอนเงินระหว่างประเทศสัญชาติอิสราเอล
งบการเงินและ Earning Call (ข้อมูล 1Q23) ดองบทความไว้ขออภัยแอดผิดไปแล้ว T_T
ตอนนี้ต้องโฟกัสที่รายได้กับยอด Active Customers และค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะ Marketing กับ transaction
รายได้ Q1/2023 อยู่ที่ $204 million (+50% YoY) Gross Profit Margin 53.89% เพิ่มจาก Q4/2022 ที่ 52.31% และ Q1/2022 ที่ 48.44% ขาดทุน $28.3 million ขาดทุนเพิ่มขึ้น 21.45% (YoY)
ต้นทุนค่าใช้จ่าย transaction ขึ้นมาที่ $74 million คิดเป็น 36% ของรายได้ ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 38%
SG&A $84.4 million คิดเป็น 41.3% ของรายได้ เพิ่มจากไตรมาสก่อนที่ 40.4% ค่าใช้จ่าย Marketing ซึ่งอยู่ที่ $41 million คิดเป็น 20% เหตุผลที่ SG&A เพิ่มขึ้น เพราะส่วน G&A เพิ่มจากการซื้อกิจการ Rewire ค่าใช้จ่าย R&D $49.4 million คิดเป็น 24.2% ไตรมาสก่อนอยู่ที่ 22.4%
Operating Income ติดลบ $26.9 million เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน เป็นเพราะค่าใช้จ่ายซื้อกิจการ แต่ถ้าเทียบกับในอดีตก็ถือว่าอยู่ในแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วน Net Income ขาดทุน $28.3 million เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งขาดทุน $19.4 million
Adjusted EBITDA อยู่ที่ $5.36 million ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ $7.47 million โดยเป็นไตรมาสแรกที่ Adjusted EBITDA พลิกเป็นบวก
Outlook ปี 2023 ถูกปรับเพิ่มทั้งรายได้และ Adjusted EBITDA คาดรายได้ไว้ที่ $875-895 million (+34%-37% YoY) Adjusted EBITDA $5-15 million หนุนด้วยภาพเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ การทำ Marketing ที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
ความเสี่ยง
แม้เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ชะลอตัวน่าจะกระทบต่อ Remitly ไม่มาก แต่ถ้าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก็คงรับผลกระทบแน่นอน
ธุรกิจเช่นนี้มีคู่แข่งในตลาดมาก เช่น TransferWise เจ้าใหญ่จากอังกฤษ ซึ่ง Remitly เด่นกว่าด้านผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้า อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่า ความปลอดภัยดูดีกว่า และมีอีกหลายเจ้าทั้ง mPayX, G2 Deals, Sila เป็นต้น
Platform ลักษณะนี้ทำได้ไม่ยาก อนาคตน่าจะมีคู่แข่งเข้ามาเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังต้องเจอกับสถาบันการเงินดั้งเดิมซึ่งมีเงินทุนสูง หากกระโดดเข้ามาลุยธุรกิจนี้แล้ว การแข่งขันน่าจะสูงไปอีก
Remitly โดดเด่นขึ้นมาได้ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้การทำ Marketing ในมุมหนึ่งก็กลายเป็นความเสี่ยงเพราะถ้ามีช่วงที่ Marketing ได้ผลน้อยลง ลูกค้าใหม่อาจน้อยลงตาม
สรุป
ว่ากันตามตรงการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นอุปสรรคสำหรับแรงงานที่ไปทำงานต่างแดน ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง ยุ่งยาก กำแพงนี้เริ่มถูกทำลายลงโดยสกุลเงินคริปโต แต่ด้วยความที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เลยยังไม่นิยมมาก
Remitly เป็นธุรกิจที่ผสมผสานข้อดีที่สกุลเงินคริปโตเคยใช้ทุบกำแพงนี้ คือ ความสะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า เข้ากับความแน่นอนและถูกกฎหมายของระบบการเงินปัจจุบัน
ยิ่งด้วยขนาดตลาดที่เหลือส่วนแบ่งอีกมาก และเทรนด์การเติบโตของบริษัทประกอบกับประสิทธิภาพการทำ Marketing ที่เน้นการบอกต่อ พร้อมการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ก็ถือว่าทำได้ดี Remitly นับว่าเป็นบริษัท fintech ที่น่าสนใจเลยทีเดียว