หุ้น BILI Bilibili แพลตฟอร์มคอนเทนต์ Gen Z รายได้โตแรงแหวกทุกคู่แข่ง พลิกมามีกำไร ปีนี้ลั่นถึงเวลาเพิ่ม Margin
พูดถึงแพลตฟอร์มคอนเทนต์วิดีโอ ตอนนี้ที่ฮอตๆ ก็ต้องนึงถึง Tiktok สัญชาติจีน แต่ยังมีแพลตฟอร์มคอนเทนต์จากจีนอีกหลายเจ้าที่เติบโตแรงไม่แพ้กันในประเทศจีน หนึ่งในนั้นก็คือ Bilibili เป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์กลางถึงยาว เอาใจวัยรุ่นยุคใหม่ ซึ่งเข้าลิสต์ทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และฮ่องกง บริษัทนี้มีอะไรน่าสนใจ ตอนนี้ยังลงทุนได้มั้ย? ไปติดตามกัน!
ธุรกิจของ Bilibili - Platform Streaming Video สาย Anime ที่กำลังเติบโต
Bilibili แพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอ จริงๆ แค่วิดีโออาจน้อยไป ต้องเรียกว่าคอนเทนต์ เพราะมีทั้งสตรีมเกมส์ ดูอนิเมะ User-generated content ไลฟ์สตรีม จนมีอีกชื่อว่า Youtube แดนมังกร
แพลตฟอร์มนี้เพิ่งเกิดเมื่อปี 2009 โดย Xu Yi, Chen Rui และ Xin Fan ริเริ่มด้วยการเป็นแพลตฟอร์มรวมคลิปจากอนิเมะ ซึ่งเติบโตจนต้องตั้งเป็นบริษัท
ด้วยเนื้อหาคอนเทนต์เน้นไปทางอนิเมะ ให้ Vibe สดใส ฐานผู้ใช้เลยเป็นคนรุ่น Gen Z และ Gen Y จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ผู้ใช้ก็โตจากวัยรุ่นสู่วัยทำงาน คอนเทนต์ก็ต้องหลากหลายตามเรื่องราวที่เข้ามาในชีวิต เลยมีทั้งคอนเทนต์เกมส์ คอนเทนต์ User-generated และไลฟ์สตรีม
ตอนนี้ Bilibili เน้นไปที่คอนเทนต์ประเภท User-generated ซึ่งส่งผลดีให้มีกลุ่มผู้ใช้ติดตามอย่างเหนียวแน่น (อารมณ์เหมือนเวลาติดช่องหรืออินฟลู) ถึงตรงนี้หลายคนอาจคิดในใจว่าแค่นี้แพลตฟอร์มไหนก็ทำได้ ไม่น่าสนใจแตกต่างอะไรเลย
แต่ Bilibili เอาฟีเจอร์ Danmu ที่เป็นระบบคอมเมนต์เรียลไทม์ที่จะโชว์แต่ละคอมเมนต์ขึ้นบนหน้าจอคอนเทนต์ ระบบง่ายๆ แค่นี้แต่ช่วยให้ผู้ชมเห็นคอมเมนต์โดยไม่ต้องเปลี่ยนทิศทางการมองปรับจอเป็นแนวนอน (ความสะดวกสบายแค่นี้ก็สร้างความแตกต่างได้)
ผู้ชมสนุกที่เห็นคอมเมนต์ตัวเองโชว์อยู่หน้าจอชัดๆ มั่นใจได้ว่าผู้ชมคนอื่นจะเห็นคอมเมนต์ของเรา แถมยังตอบโต้กันได้ ยิ่งเพิ่มการมีส่วนร่วม คอนเทนต์เลยถูกแชร์เรียกคนดูเข้าแพลตฟอร์มเป็นทำการตลาดไปพร้อมกัน
นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังมีระบบ Coin เปิดให้ผู้ชมซัพพอร์ตเหล่าอินฟลู จูงใจให้สร้างคอนเทนต์คุณภาพดีออกมา และระบบ Premium Membership ให้ผู้ชมได้คอนเทนต์หรือได้สิทธิ์พิเศษเพิ่มเติม เช่น ได้เข้าแพลตฟอร์ม Audio ที่ชื่อว่า Maoer, เข้าแพลตฟอร์ม Bilibili Comic, สร้าง Avatar, เรียนเนื้อหาส่วน Premium ของคอนเทนต์คอร์สเรียน
ส่วนคอนเทนต์เกมส์ Bilibili ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ทำธุรกิจ Mobile Games ทั้งซื้อลิขสิทธิ์เกมส์จากต่างประเทศ ร่วมพัฒนา และซื้อบริษัทเกมส์มาพัฒนาเกมส์ลงแพลตฟอร์มเอง และยังเอาจริงถึงขนาดซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขัน “League of Legends” World Championship ในประเทศจีนยาว 3 ปี
และ Bilibili ก็ไม่พลาดเปิดธุรกิจ e-Commerce บนแพลตฟอร์มมีทั้งซื้อขายสินค้าทั่วไป ไลฟ์ขายของ รวมถึงซื้อขายไอเทมเกมส์
ด้วยคอนเทนต์ครบทุกหมวด คุณภาพสูง วางภาพลักษณ์แพลตฟอร์มเป็นผู้นำเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ Bilibili เลยก้าวข้ามจากแพลตฟอร์มวิดีโอปกติกลายเป็นแหล่งคอมมูนิตี้ของแต่ละประเภทคอนเทนต์ (ที่แน่ๆ น่าจะเป็นแหล่งของคนรักอนิเมะและเกมส์)
สัมมนาออนไลน์ Ai Dragon หุ้น Ai จีนพลิกโลก ! เปิดลงทะเบียนแล้ว !
สัมมนา AI Dragon สัมมนาหุ้น AI ตัวที่ 3 ของเพจเปิดให้ลงทะเบียนแล้วครับ ดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ใน Comment เลยครับ
รอบนี้เราจะมาเจาะลึก AI & Tech Ecosystem ของเมืองจีนเทียบกับของสหรัฐฯกันว่าใครได้เปรียบ เสียเปรียบกันตรงไหนยังไงบ้าง
เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกหุ้น AI Champion ของจีนรอบนี้กัน เช่น BABA, BIDU, ATAT, SMIC และหุ้น IPO สาย AI และ Robotic เช่น Horizon Robotic และ UBTech Robotic
สนใจลุยหุ้นจีนด้วยกัน ! สนใจสามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่นี่เลยครับ
Bilibili สร้างรายได้จาก 4 ช่องทาง ประกอบด้วย
Value-added services (VAS) คือ ระบบ Coin ซัพพอร์ตอินฟลูกับ Premium Membership และบริการซื้อขายสินค้า e-Commerce บนแพลตฟอร์ม ซึ่ง Bilibili ศึกษามาแล้วว่าระบบนี้เหมาะกับแพลตฟอร์มและไม่ทำให้ฐานคนดูหลักที่เป็น Gen Z เกิดความไม่พอใจ
Advertising ได้โฆษณาจากทั้งแบรนด์ดังระดับ Luxury, เหล่าอินฟลูยิงโฆษณาโปรโมทคอนเทนต์ และโฆษณาที่จะเก็บรายได้ถ้าขายสินค้าได้
Mobile Games เก็บรายได้จากทุกอย่างที่เกี่ยวกับธุรกิจเกมส์
IP derivatives and others รายได้จากลิขสิทธิ์ทางปัญญาของบริษัทและอื่นๆ
จาก Q4/24 มีสัดส่วนรายได้มาจาก VAS 45%, Advertising 30.4%, Mobile Games 15.8% และ IP derivatives and others 8.8%
ตอนนี้มี Daily Active Users (DAUs) อยู่ที่ 103 ล้านผู้ใช้ เพิ่มจาก Q3/24 ที่ 100 ล้านผู้ใช้ แต่ละผู้ใช้ใช้เวลาดูคอนเทนต์ต่อวันเฉลี่ย (Average Daily Time Spent Per User) อยู่ที่ 99 นาที เพิ่มจาก Q3/24 ที่ 95 นาที
ปี 2025 บริษัทยังเดินหน้าทำการตลาดดึงผู้ใช้เข้าแพลตฟอร์มเพิ่ม เช่น แคมเปญหยุดยาวฤดูร้อน เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์และสร้าง Brand Awareness
แล้วแบบนี้ Bilibili ก็มีคู่แข่งเพียบเลยสินะ อาจจะบอกได้ว่าไม่เยอะมาก เพราะอะไร? ก็เพราะถึงจะมีหลายแอพที่ทำคลิป แต่มีรายละเอียดต่างกันอยู่บ้าง
อย่าง iQiyi และ Tencent Video จะเป็นสตรีมคอนเทนต์ลิขสิทธิ์หรือไม่ก็ลงทุนสร้างคอนเทนต์เอง ซึ่งจะเป็นคอนเทนต์ยาว ผู้ใช้ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน เหมือน Netflix ส่วน Tiktok ถึงจะไม่ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือนแต่ Tiktok เน้นคอนเทนต์ที่สั้นมาก ต่างจาก Bilibili ที่เป็นคอนเทนต์ใช้เวลากลางถึงยาว เรียกว่าความยาวคอนเทนต์ทำให้แต่ละแอพได้ฐานผู้ใช้ที่ต่างกัน
แต่ก็มี Douyin Selection หรือชื่อเก่า Qingtao จาก Tiktok ซึ่งจริงๆ ก็คือ Tiktok เวอร์ชั่นยาวขึ้น ส่งมาแย่งตลาดกับ Bilibili คือนอกจากความยาวคอนเทนต์แล้ว เหมือนยัน vibe ของแพลตฟอร์ม
การเติบโต - โตตาม User ที่มีเงินมากขึ้น โตทั้งรายได้และกำไร
โมเมนตัมช่วงนี้กำลังมา รายได้เติบโตมากจนมีกำไรสุทธิแล้ว น่าจะทั้งถึงจุดคุ้มทุนและจับจุดทิศทางการเติบโตได้แล้ว ยิ่ง CEO ออกพูดถึงทั้งการขยายธุรกิจและเพิ่ม Margin
ฐานผู้ใช้ Gen Z เป็นกลุ่มที่จะมีอำนาจการซื้อเพิ่มขึ้นทั้งจากหน้าที่การงานรายได้เติบโต และเม็ดเงินจากผู้ใหญ่เครือญาติซึ่งน่าจะเยอะ เพราะคนรุ่นนั้นโดนจำกัดการมีลูกจากรัฐบาล ทำให้กระเป๋าเงิน Gen Z เพียงกระเป๋าเดียว รอรับเงินจากพ่อแม่ก็อย่างน้อย 2 กระเป๋า แล้วอาจได้เพิ่มจากญาติอีก
ธุรกิจเกมส์ที่เติบโตดีน่าจะพอชี้ทางให้บริษัทได้ว่าจะปล่อยคอนเทนต์แนวไหน และเป็นโอกาสให้บริษัทต่อยอดฐานผู้ใช้ไปยังธุรกิจอื่น โดยเฉพาะซื้อขายไอเทมเกมส์ผ่าน e-Commerce นอกจากนี้การประสบความสำเร็จในธุรกิจเกมส์อาจดึงพันธมิตรใหม่ร่วมสร้างคอนเทนต์หรือเกมส์ดึงฐานผู้ใช้ Gen Z เข้ามาเพิ่มเติมอีก
งบการเงินและ Earning Call - รายได้และกำไร ATH
Q4/24 รายได้เติบโตแรงถึง 22% (YoY) มาที่ RMB 7,734 million แบ่งออกตามช่องทางได้เป็น
รายได้ VAS เติบโต 8% (YoY) อยู่ที่ RMB 3,083 million
รายได้ Advertising เติบโต 24% (YoY) อยู่ที่ RMB 2,388 million
รายได้ Mobile Games เติบโต 79% (YoY) อยู่ที่ RMB 1,797 million
และรายได้ IP derivatives and others หดตัว 16% (YoY) อยู่ที่ RMB 464 million
CEO มองว่ารายได้จาก Ads ที่เติบโตแรงได้ผลดีจากทั้งฐานผู้ใช้และคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ อีกส่วนก็มาจากการปรับปรุง Infrastructure ด้าน Ads
หัก Cost of revenues ออกแล้วได้ Gross Profit Margin เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 36.05% จาก Q4/23 ที่ 26.15% และ Q3/24 ซึ่งอยู่ที่ 34.87% ซึ่ง CEO หวังว่า Gross Profit Margin ปี 2025 จะเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อไป โดยมีเป้าระยะยาวที่ 40-45%
ค่าใช้จ่าย SG&A อยู่ที่ RMB 1,742.5 million เพิ่มขึ้น 6.4% (YoY) อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้อยู่ที่ 22.5% จาก Q3/24 ที่ 25.8% ส่วนค่าใช้จ่าย R&D อยู่ที่ RMB 919.3 million ลดลง 30.7% (YoY) อัตราส่วนค่าใช้จ่าย R&D ต่อรายได้อยู่ที่ 11.9% จาก Q3/24 ที่ 20.9%
แม้ภาพรวมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้จะลดลง แต่การเห็นอัตราส่วนค่าใช้จ่าย R&D ต่อรายได้ลดลงแบบนี้อาจไม่ใช่เรื่องดีนักสำหรับบริษัทเทคโนโลยี
บริษัทพลิกมามี EBITDA ครั้งแรกตั้งแต่ Q3/24 ที่ RMB 615.9 million และใน Q4/24 เพิ่มขึ้นมาที่ RMB 809.0 million เมื่อหักค่าเสื่อมออกไปจะได้ Operating Income ที่ออกมามีกำไรเป็นไตรมาสแรกที่ RMB 126.4 million จาก Q4/23 ที่ขาดทุนบรรทัดนี้ RMB 1,304 million
และเช่นกันกับ Net Income ที่พลิกกลับมามีกำไรเป็นไตรมาสแรกเหมือนกันอยู่ที่ RMB 90.0 million โดยมี Net Income Margin ที่ 1.16%
Valuation - ไม่ถูกแต่มีความเฉพาะตัวสูง
ตั้งแต่จับทางถูก รายได้เติบโตดี ตั้งแต่ปี 2022 อัตราส่วน P/S ก็ลงมาเทรดที่กรอบ 1.3-3.8 เท่า ตอนนี้อยู่ที่ 2.4 เท่า ซึ่งก็อยู่ตรงกลางของกรอบนี้ ถ้าเทียบกับโมเมนตัมรายได้ที่ยังน่าจะโตต่อและบริษัทพลิกมามีกำไร ตรงนี้ถือว่าไม่ค่อยแพง
แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งที่ถึงจะรูปแบบคอนเทนต์จะไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ แต่ก็ถือว่าแย่ง Eyeball ได้เหมือนกัน iQIYI จะอยู่ที่ 0.6 เท่า, DouYu ที่ 0.5 เท่า และ Kuaishou อยู่ที่ 2.1 เท่า
เห็นอัตราส่วนน้อยๆ คงเรียกว่ามูลค่าถูกไม่ได้ แต่น่าจะมาจากรายได้หดตัว กำไรไม่นิ่ง ถ้าจะเทียบก็ต้องเลือก Kuaishou ซึ่งรายได้กำลังโต กำไรค่อนข้างนิ่ง ก็จะได้ว่า Bilibili ไม่ถือว่าถูก แต่กระแสกำลังมาจากโมเมนตัมขาขึ้น ตอนนี้ลงทุนตามกระแสได้ แต่ระยะยาวกับอุตสาหกรรมนี้ต้องเตรียมใจรับความผันผวนหน่อย
ความเสี่ยง - โตได้ตอนนี้ แต่ยั่งยืนหรือไม่?
เรื่องการเติบโตนี่ไม่มีข้อสงสัย แต่การยืนระยะยังเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ยิ่งกับตลาดเทคโนโลยีจีนที่แข่งขันเดือดมาก แถมบริษัทยังพึ่งพาฐานผู้ใช้หลักเป็น Gen Z ก็เป็นอีกความเสี่ยงใหญ่
ถ้า Gen Z ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต พฤติกรรมหรือความชอบคอนเทนต์อาจเปลี่ยนไป ทีนี้แพลตฟอร์มก็ต้องเลือกว่าจะปรับทิศทางคอนเทนต์ตามฐานลูกค้ากลุ่มนี้ หรือจะทั้งตามฐานผู้ใช้กลุ่มเดิมแล้วเพิ่มคอนเทนต์ตามเทรนด์ Gen ใหม่ในเวลานั้น แล้วใครจะรู้ว่าตอนนั้นจะมีแพลตฟอร์มไหนมาแย่งผู้ใช้ Gen ใหม่เหล่านั้นหรือไม่?
และความสำเร็จจากเกมส์ San Guo: Mou Ding Tian Xia เพียงเกมส์เดียว แล้วรายได้โตขนาดนี้ อาจสร้างความคาดหวังมหาศาลตามมา แล้วกับอุตสาหกรรมเกมส์นั้นขึ้นชื่อว่าคาดเดายากมาก ยักษ์ใหญ่ระดับโลกก็เคยปล่อยเกมส์แล้วแป๊กมากมาย ถ้าในอนาคตธุรกิจเกมส์ของ Bilibili ชะลอลง ทีนี้ความคาดหวังเหล่านั้นจะกลับมาทุบราคาหุ้นได้
สุดท้ายเรื่องการกำกับดูแลกับบริษัทเทคโนโลยีจีนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน การคาดการณ์แทบเป็นไปไม่ได้ บางช่วงถ้าเศรษฐกิจไม่ค่อยดีก็ผ่อนคลายการกำกับ ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นก็อาจกลับมากำกับแน่นขึ้น (ดูจากอดีตได้) ไม่แน่ว่าในอนาคตก็อาจเกิดกับ Bilibili ได้เหมือนกัน
สรุป - ธุรกิจมีความเฉพาะตัว ลุ้นโตได้เรื่อยๆ
Bilibili บริษัทแพลตฟอร์มสตรีมคอนเทนต์กลางถึงยาว และยังขยายธุรกิจไปวงการเกมส์ด้วย ตอนนี้จับทางคอนเทนต์ที่ถูกใจฐานผู้ใช้หลัก Gen Z ได้แล้ว ปีนี้ทิศทางรายได้และกำไรน่าจะเติบโตต่อ ลุ้นว่าจะเพิ่ม Margin ไปถึงเป้าเร็วกว่าที่คาดไว้หรือไม่ ส่วนระยะยาวสำหรับธุรกิจแบบนี้ก็มีความเสี่ยงทั้งฐานผู้ใช้เปลี่ยนไปและคู่แข่งเข้ามาง่าย